วันพุธ

"พระ"ฝากบอก




ภรรยา: ที่รัก..พรุ่งนี้ฉันต้องไปติดต่องานที่อเมริกาเดือนหนึ่งนะค่ะ

สามี: วันมะรืนผมก็ต้องไปดูงานที่เมืองจีนเหมือนกันจ๊ะ

หลังจากภรรยาเดินทางไป สามีได้ให้เพื่อนสนิท "ยืมรถ" เพราะไม่อยู่กันตั้งเดือนจะได้มีคนช่วยดูแล

แม่ภรรยา: กริ๊ง ง ง ง....หนูกลับบ้านด่วน คุณพ่อไม่สบาย!

เมื่อภรรยากลับมาถึงบ้าน พบว่ารถ "ไม่อยู่" ติดต่อสามีก็ไม่ได้ จึงไปแจ้งความว่า "รถโดนขโมย"

คุณตำรวจดักจับรถได้ที่จังหวัดปราจีนบุรี มิวายคนขับจะบอกว่าเพื่อน "ให้ยืม" ก็ไม่เชื่อ!

แต่ในที่สุดก็เป็นเรื่อง "โอ้ละพ่อ" เจ้าทุกข์ไม่เอาความ เพราะเป็นการ "เข้าใจผิด" เลิกแล้วต่อกันไป

แต่คุณตำรวจ "ไม่ยอมเลิกด้วย" เพราะเป็นคดีอาญาฐานลักทรัพย์ จะจับเพื่อนสามี "เข้าคุก" ให้ได้!!!

มิวายที่ "สามี" จะนั่งยันนอนยันว่าเป็นคนให้เพื่อน "ยืมรถ" ไม่ใช่ "รถโดนขโมย"


ตกลงคดีนี้เป็นคดีอะไร???... ถ้าคุณตำรวจไม่ยอมความ มีแค่เหตุผลเดียวก็คือหวัง "ตบทรัพย์" จากจำเลย..เข้าใจตรงกันนะ!!!

ถ้าเพื่อนสามี "ขโมยรถ" ไปจากบ้านเพราะรู้ว่าไม่มีคนอยู่ ถึงแม้จะ "ยอมความ" เพราะความเป็นเพื่อน ก็ถือว่ามีความผิดเพราะสำเร็จทั้ง "เจตนาและการกระทำ"


แต่ความเป็นจริงคือสามี "ให้ยืม" เพียงแต่ภรรยา "ไม่รู้" เมื่อได้รถคืนก็ไม่ได้ติดใจ เพราะเป็นการ "เข้าใจผิด"

เวลาเดียวกัน ต่างสถานที่!!

พระนั่ง"รับบริจาค"อยู่ที่วัด เอาเงินไป"สร้างศาลา"จะเป็นการ"ฟอกเงิน" ได้อย่างไร???

ญาติโยมเอา"เงินไม่บริสุทธิ์"มาบริจาค โดยที่"พระไม่รู้ที่มาของเงิน" จะถือว่าเป็นการ"รับของโจร"ได้อย่างไร???

หลวงพ่อแม้ "รับเงิน" แต่ก็ไม่เคย "เห็นเงิน" แม้จะใส่ชื่อท่านในเช็ค แต่ท่านก็ไม่เคยถอนเป็น "เงินสด" แม้ซักบาทเดียว ล้วนแล้วแต่ "กรรมการวัด" จัดการทั้งหมดทั้งสิ้น

มิวายที่ "สหกรณ์" จะนั่งยันนอนยันว่า "ไม่เอาความ" และยัง "ขอบคุณ" ที่วัดยังเป็นผู้เดียวในจำนวน 32 รายที่ "ช่วยเหลือเยียวยา" ให้แก่สมาชิก

แต่คุณคน D ไม่ยอมเพราะบอกเป็นคดีอาญา พยายามจะจับ"หลวงพ่อ"ให้ได้...โดย "แปลง" ท่านจาก "พยาน" ในตอนแรกมาเป็น "ผู้ต้องหา" ในตอนหลัง


ตกลงคดีนี้เป็นคดีอะไร???...เหลียวมอง 360 องศาแล้ว ก็มีแค่เหตุผลเดียวคือ "เลือกปฏิบัติ" หรือจะพูดให้ชัดก็คือมี "ใบสั่ง"....เข้าใจตรงกันนะ!!!

เพื่อนสามี "ยืมรถ" มิใช่ "ขโมยแล้วคืน" จึงไม่มีความผิดฉันใด!!!  "หลวงพ่อ" ก็มิได้ "สมรู้ร่วมคิด" จึงไม่มีความผิดฉันนั้น!!! 

เพราะฉะนั้นถ้าจะถามว่า "ไม่ผิดจะกลัวอะไร" ก็คงต้องตอบว่า "ก็กลัวติดคุกฟรีๆไงหละโยม"




วันอาทิตย์

"หนอน"ของมะนาว





กาคาบข่าว!!

ท่าน: เตรียมตัวกันให้พร้อม..อาทิตย์นี้จะบุก!

รอง: เที่ยวนี้ต้องปิด"สื่อ"

อัยเกิน: พรุ่งนี้จะไปขอหมายศาล

ศรีธัญญา: ครั้งนี้ผม"จัดเต็ม"

อธิบ่อดี: ทำอะไรนะ..มะนาว

ไพเบี้ย: ลื้อเล่นเครื่องนับ"สัมมา อะระหัง"ทำไม???

มะนาว: ติดต่อ"สาย"ในวัด!!!


วันเสาร์

"แกะ"ฝากถาม!!!




หมาป่าอยากกินแกะ!!! จะโดดเข้าไปกินเฉยๆ ก็กลัวว่าจะเสีย "ชาติหมา"

ยกโน่นอ้างนี่!! แกไม่ผิด พี่แกก็ผิด พี่แกไม่ผิด พ่อแกก็ผิด!!

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "หมา" มักหา "เหตุผล" ให้กับตัวเองได้เสมอ!!

เล่นงานวัดใหญ่ไม่ได้!! ก็สั่ง "ลูกน้อง" ไป "ข่มขู่" วัดสาขา!!

หาเรื่องวัดสาขาไม่ได้!! เรื่องสร้างที่ "ปฏิบัติธรรม" ก็จะเอา!!

"รุกที่ป่าสงวน"  มีเอกสารสิทธิ์..เงิบ!!

"ขออนุญาติก่อสร้างหรือเปล่า"  ขอเรียบร้อย..หงาย!!

"สร้างสูงเกินไปไหม"  มีคนสร้างสูงกว่าอีก..หงุดหงิด!!

ตกลงพี่จะ "หาเรื่อง" ใช่ป่ะ!!

ถ้าไม่คิดว่า "อายหมา" ก็เอาที่ "สบายใจ" เลยพี่!!


...........................................................





วันพฤหัสบดี

รออีกนิ๊ส




กาคาบข่าว!!

ท่าน: เร่งคดี"หลวงพ่อ"กันหน่อยซิ ตอนนี้ผมโดนเรื่อง"ยาบ้า"จนจะบ้าอยู่แล้ว

อัยเกิน: จี้ไปทางอัยการแล้วครับ

รอง: คงต้องหาเพิ่มอีก 400 ล้าน

อธิบ่อดี: แล้วเมื่อไร จะเข้า"ค้น"รอบสองละ

ศรีธัญญา: คนเยอะมาก เข้าไม่ได้

ไพเบี้ย: มะนาว..ลื้อมีความเห็นไง

มะนาว: คนโดนขัง..รอระบาย!!!



วันอังคาร

"พี่ใหญ่"ฝากบอก




                                                                                                                                                              
ลูกคนแรก "พ่อ" ส่งเสียจนเรียนจบ จากเมืองนอกเมืองนา หวังให้กลับมา ช่วยงานพระศาสน์         
"ตั้งแต่กลับมา เที่ยวเตร่เฮฮา ทั้งไม่รักษา พระธรรมวินัย"

ตักเตือนว่ากล่าวก็แล้ว ชี้ข้อดีข้อเสียก็แล้ว ก็ยังไม่ยอมเข้าใจ "คิดเข้าข้างตน ไม่สนใจใคร จะอยู่ทำไม ขอไปดีกว่า"

ออกไปด้วยคิดว่าจะสบาย ญาติโยมคงเอาใจ ที่ไหนผิดคาด "ตกระกำลำบาก ผูกใจอาฆาต ซมซานไร้ญาติ หาที่พึ่งไม่มี"

ถึงคราว "พ่อชรา" หมู่มาราลุกล้ำ ร่วมโดดเข้าขย้ำ ชำระแค้นในวันวาร

ลูกคนโต แยกไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ประสบความสำเร็จ จนร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อทราบข่าวพ่อจึงรีบมา
"ตอบแทนพระคุณ ล้นลึกเหลือใจ ให้สมฤทัย ที่เป็นพี่ใหญ่"

ชักชวนพี่น้อง ร่วมใจกันมา สวดมนต์ภาวนา ให้พ่อหายป่วย..  มากันเยอะๆ เจอะเจอกันที่ หน้ามหาเจดีย์ ศักดิ์ศรีชาวพุทธ





"คุณลุง"ฝากบอก น้ำท่วมกรุงเทพ อันนั้นมีเหตุ แผ่นดินมันทรุด  "ต้องรีบเร่งรุด กันทำความดี ยกพื้นธรณี ให้มันสูงขึ้น"

ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี อันว่า "ลูกที่ดี" นั้นต้องมีความกตัญญู เป็นไปได้ไหมว่า ที่บ้านเมืองมันวิปริตอยู่ทุกวัน เพราะ "พวก" ที่ชอบ "คบ" กับ "ลูกทรพี" พื้นปฐพีมันถึง..ทรุดลงทรุดลง

21 มิย. 59



วันพุธ

อีกาสงสัย




อีกาได้ยินมาเลยสงสัย

ทำไม DSI แจ้งข้อหาซ้อน? กับ"หลวงพ่อ"หลังจากเคยทำคดีเดียวกันส่งอัยการไปแล้ว!
-เพราะคดีที่ส่งไปถึงอัยการแล้ว ถือว่า "หลุด" จากอำนาจของ DSI  จึงต้องตั้งคดี "ซ้อน" ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีคดีในมือ จึงจะ "เล่นงาน" ได้เต็มที่  "ใช่หรือไม่"

ทำไม DSI ไม่ยอมให้เลื่อน? การรับแจ้งข้อกล่าวหาของ"หลวงพ่อ"จากเหตุผลการอาพาธ!
-ไม่ยอมให้ "เลื่อน" เพราะต้องการให้หลวงพ่อ ตกเป็นผู้ต้องหา "ใช่หรือไม่"

ทำไม DSI ไม่ยอมเอาแพทย์เข้าไปตรวจอาการ"หลวงพ่อ"ในวัด? ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ควรทำตามหลักสากล!
-ไม่ยอมเอา "แพทย์" เข้ามาตรวจอาการของหลวงพ่อ เพราะกลัวว่าแพทย์จะวินิจฉัยว่า "ป่วย" จริง "ใช่หรือไม่"

ทำไม DSI ไม่ยอมเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาของ"หลวงพ่อ"ในวัด?  ทั้งๆที่มาถึงหน้า สภ.คลองหลวง!
-ไม่ยอม "เข้า" ไปแจ้งข้อกล่าวหาในวัด เพราะต้องการให้หลวงพ่อออกมาจากวัด  เพื่อจะได้ควบคุมตัวไป "จัดการ" "ใช่หรือไม่"

ทำไม DSI ต้องออกหมายจับหลวงพ่อ?
-เพราะรู้ว่าคดีฟอกเงินและรับของโจร เป็นข้อหา"ยัดเยียด" และเป็น"คดีที่มิชอบ" จึงรีบ รวบรัดตัดความ  กลบกระแสข่าว ชิงหน้าสื่อ "ใช่หรือไม่"

ทำไม DSI ต้องขอความร่วมมือจาก สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีในการปรึกษาหาทางออก?
-เพราะต้องการ "หลอกใช้พระผู้ใหญ่" เมื่อไม่ได้  จึงต้องรีบแอบสั่งฟ้อง แล้วส่งสำนวนให้อัยการเลย เพื่อจะ บุกจับ "ใช่หรือไม่"

ไม่ว่า DSI จะมาไม้ไหน จะปลิ้นปล้อน หลอกลวง อย่างไร  ไป "ขน" กันมาเท่าไร  ท่านก็จะยังคง "ยืนหยัดและยืนยัน"ในความบริสุทธิ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย พระเทพญาณมหามุนี "ใช่หรือไม่"

หากคำตอบของท่าน คือ "ไม่" อีกาก็คงไร้ซึ่งวาสนา แต่หากคำตอบของท่านคือ "ใช่" เราคงได้เคียงบ่าเคียงไหล่กันสร้างสรรค์ฝัน "ผ่านวิกฤตด้วยศรัทธา" รอวันมาของ "ฟ้าสีทองผ่องอำไพ" ร่วมกัน

พ. 15 มิย. 59